ชำระหนี้ กยศ./กรอ. ด้วย KTB netbank ฟรีค่าธรรมเนียม

          กองทุนที่ชื่อว่า กยศ./กรอ. คิดว่าหลายท่านคงจะรู้จักเป้นอย่างดี เพราะบางท่านที่จบได้มาทำงานดี ๆ หลาย ๆ คนก็ได้ความช่วยเหลือจากกองทุนนี้ และเป็นกองทุนที่ดอกเบี้ยถูกมาก แถมเวลาชำระก็ตั้ง 15 ปี แต่ก็ยังมีอีกมาก ที่จบออกมาทำงานแล้วก้ไม่ยอมจ่าย ซึ่งความจริง หลังจบมาทางกองทุนก็ให้เวลาอีกตั้ง 2 ปีถึงจะจ่ายเงินงวดแรก ก็ยังไม่ค่อยจ่ายกัน เฮ้อ จนปัจจุบันต้องมีการบังคับการตัดเงินเดือนจากนายจ้างโดยจะเริ่มเร็ว ๆ นี้  ซึ่งหากเราไม่จ่ายกัน ความลำบากก็จะตกแก่น้อง ๆ รุ่นหลัง ๆ ที่ต้องการเงินก้อนนี้ เพื่อสร้างโอกาสการศึกษาให้กับตัวเอง อย่างที่พวกเรา หรือใครหลายคนเคยได้รับมา


ซึ่งก่อนหน้านี้ การชำระเงินก็จะมีค่าธรรมเนียม รายการละ 10 บาท บางท่าก็เอามาเป็นข้ออ้างในการไม่อยากจะจ่าย  แต่วันนี้ทาง กยศ./กรอ. ประกาศ "ฟรีค่าธรรมเนียม เมื่อชำระหนี้ด้วย KTB netbank" แต่สามารถชำระได้ช่วง  07.00 - 20.30 น. เท่านั้น แต่ก็ถือว่าสะดวกและประหยัดไปอีกสำหรับคนที่อยากจ่ายเป้นรายเดือน ทีนี้มาลองดูวิธีการจ่ายกัน

1. ขั้นแรกเราต้อง App KTB netbank สำหรับท่านที่ไม่มีบัญชีกรุงไทย ก็ต้องเปิดบัญชีก่อน แต่หากมีบัญชีแล้ว ก็สามารถโหลดแอปพลิเคชั่นมาลงได้เลยทั้ง Android และ iOS (วิธีสมัครสามารถหาได้จาก google เลยครับ)

2. เปิดเข้าหน้าแอป เลือกไปที่ จ่ายบิลอื่น ๆ / พร้อมเพย์ 

3.เลือกหน่วยงานที่ชำระ  จะมีสัญลักษณ์ของ กยศ. อยู่ เราก็กดเข้าไปได้เลย

 4. ใส่เลขบัตรประจำตัวประชาชนและวันเกิดเรา เช่นเราเกิด 1 มกราคม 2524 ก็ใส่ 01012524 จากนั้นกด ต่อไป

5. หน้านี้จะมีข้อมูลบัตรประจำตัวเรา และวันเกิด จากนั้นจะมีช่องให้กรอกจำนวนเงินที่ต้องการจะจ่าย เช่นผมจะลองจ่าย 100 บาทก็กรอก 100 จากนั้นเมื่อตรวจสอบข้อมูลถูกต้องก็กดไปหน้าต่อไป


6. ทำการตรวจสอบให้ถูกต้องอีกครั้ง เพื่อทำรายการต่อไป


 7. จากนั้นก็จะมีหน้าให้เราป้อน TOP ที่จะส่งไปยังเบอร์มือถือที่เราทำการลงทะเบียนไว้กับทางธนาคาร เพื่อความปลอดภัยเมื่อกรอกเสร็จก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ระบบก็จะชำระให้ตามจำนวนเงินที่เราระบุไป

8. ที่นี่มาลองตรวจสอบยอดที่เราจ่ายว่า มันหักให้เลยหรือไม่ โดยเข้าไปที่ https://www.e-studentloan.ktb.co.th  ทำการเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย

พอดีได้จับภาพหน้าจอก่อนและหลังจ่ายไว้ครับ เพื่อจะปรียบเทียบให้ดู


ยอดหลังจ่ายก็จะตัดให้เราทันทีครับ จะเห็นว่ายอดล่าสุด 100 บาท  และหนี้ที่ต้องชำระก็จะลดลงให้ ไม่ต้องรอนานเหมือนบางธุรกรรม บางทีต้องรออีกวันมันถึงจะตัดยอดให้เป็นปัจจุบันให้ ถือว่าสะดวกมาก


ทีนี้เมื่อสพดวกในการจ่ายแบบนี้ แถมไม่มีค่าธรรมเนียม รุ่นพี่อย่างเรา ๆ ก็ควรจ่ายให้ครบตามกำหนดทุกปี เพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้น้อง ๆ กันนะครับ

ข้อมูลเพิ่มสามารถดูได้ที่ https://studentloan.or.th หรือ https://www.facebook.com/studentloan.th/ 

เตรียมตัวรับมือบริการย่อลิงค์ goo.gl ปิดตัว

จากกรณีที่ทาง google จะทำการปิดให้บริการย่อลิงค์หรือย่อชื่อ url ที่ goo.gl ในช่วง 13 เมษายน 2561 นี้ เป็นต้นไป ตามข่าวที่ทาง google ได้อัพเดทไว้ในบล็อก https://developers.googleblog.com/2018/03/transitioning-google-url-shortener.html
และมีข้อความแจ้งเตือนไว้ เมื่อเราเข้าหน้า goo.gl หมายความว่า

1. ผู้ใช้ที่ไม่เคยใช้งาน หรือหน้าใหม่จะไม่สามารถสร้างลิงก์ย่อชื่อ url ใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2561 

2. ผู้ที่เคยใช้ goo.gl มาก่อนยังสามารถ login และใช้งาน goo.gl ได้ถึง 30 มีนาคม 2562

3. หลังจาก 30 มีนาคม 2562 ระบบของ goo.gl จะหยุดให้บริการและลิงก์รวมถึงข้อมูลจาก goo.gl ทั้งหมดจะไม่สามารถย้ายไปไว้บน Firebase ได้

4. ผู้ใช้ยังคงสามารถส่งออกข้อมูลจาก goo.gl ผ่านคอนโซลได้ก่อนจะหยุดให้บริการในวันที่ 30 มีนาคม 2562

วิธีการดาวน์โหลด ก็เพียงเข้าหน้า goo.gl โดยต้องเข้าระบบก่อน จากนั้นจะมี ปุ่มให้ Download เป็นไฟล์ CSV มาเก็บไว้ หรือเพื่อนำไปใช้กับระบบย่อลิงค์อื่น ๆ ที่สามารถนำเข้าจาก csv นี้ได้ หรือจะใช้บริการ  Firebase Dynamic Links  เพราะเป็นบริการของ Google เอง หรือจากรายอื่นๆ ทดแทน เช่น bit.ly หรือ ow.ly  หรือที่อื่น ๆ ก็ได้


หน้าตามที่ได้มา
เมื่อเปิดดูข้างในไฟล์ ก็จะเป็นชื่อไฟล์ที่ย่อ, ชื่อไฟล์เดิมของเรา และวันที่สร้าง


แก้ปัญหาการ sync ระหว่างแอป Endomondo กับ Strava

หากเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายและใช้แอปพลิเคชั่น Tracker จากแอปต่าง ๆ บางท่านก็ใช้หลายตัวอย่างเช่นบทความนี้ SyncMyTracks แอปซิงค์ข้อมูลแทรคเกอร์ระหว่างแอปออกกำลังกาย
แต่หลังจากทดลองใช้งานแล้ว พบว่าเจ้าตัวแอป endomondo กับ strava ค่อข้างจะเจอปัญหาคือ
1. ถ้าใช้ strava เป็นแอปที่ใช้เก็บระยะ แล้ว sync ไป endomondo จะไม่มีปัญหา ระยะทางและเวลาจะตรง
2.  ถ้าใช้ endomondo เป็นแอปที่ใช้เก็บระยะ แล้ว sync ไป strava จะพบปัญหา ระยะทางและเวลาจะไม่ตรงกัน

ตัวอย่าง ทำการ sync ตัวแอป SyncMyTrack 


พอมาดูที่แอป endomondo จะปกติ (ใช้ endomondo เป็นตัวเก็บระยะตอนวิ่ง)  เวลาจะอยู่ประมาณ 1.04.56 ชม.


 แต่พอมาดูที่แอป strava เวลาจะโชว์แค่ 52 นาที ซึ่งห่างจากเวลาจริงค่อนข้างมาตั้ง เกือบ 13 นาที และเจ้าแอป Strava นี่มันก็ไม่สามารถแก้ไขเวลาได้ด้วย ไม่เหมือนแอปตัวอื่น ๆ



ซึ่งลองใช้วิธีอื่น เช่นการ export fil ทั้งแบบ TCX และ GPX แล้วก็อาการเหมือนกัน คือเวลาของ Strava จะเพี้ยนไปมาก 

วิธีแก้ไข แบบแก้ขัด คือ ให้เราเปลี่ยนประเภทการวิ่ง จาก None เป็น Race


 ลองมาดูใหม่ จะเห็นว่าเวลาก็ยังไม่ตรงซะทีเดียว แต่คาดเคลื่อนนิดหน่อยไป 4 นาที ซึ่งดีกว่าแบบเก่านิดหน่อย

 เปรียบเทียบกับแอป endomondo หลังจากแก้ไขเป็น Race ใน strava 

ทดสอบใช้งาน Be Wallet แอปจาก “บุญเติม” (Be Wallet app from Boonterm)

         หากเดินไปทางไหน ไม่ว่าหน้า 7-11 หรือตามแหล่งชุมชนตอนนี้ เราจะพบเห็นตู้ "บุญเติม" เยอะมาก เรียกว่าในบรรดาตู้เติมเงิน แทบจะไม่ค่อยเห็นยี่ห้ออื่นแล้วในเดี๋ยวนี้ 55  และตอนนี้ทางบุญเติมเอง ก็ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น Be Wallet ออกมา เป็น Mobile payment ทางเลือกน้องใหม่อีกตัว ซึ่งแบรนด์ “บุญเติม” จากที่ผู้ใช้ทั่วไปคุ้นเคยดีจากตู้เติมเงิน น่าจะช่วยให้ Be Wallet เป็นที่ยอมรับและมีการใช้งาน



สำหรับใครที่อยากจะลองติดตั้งเพื่อใช้งานสามารถดาวน์โหลดทั้ง Android และ ios ดังนี้

สำหรับ android download ที่นี่ 

สำหรับ ios download ที่นี่

หลังจาก download มาเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการติดตั้งและลงทะเบียน ซึ่งไม่ยากครับ โดยขั้นแรกก็ทำการกรอหหมายเลขโทรศัพท์ที่เราใช้งาน

 
และจะได้ OTP  แล้วนำ OTP มากรอก เพื่อยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของเลขหมายนั้นที่แท้จริง 


  
และเราต้องไปกดยืนยัน Activate Email ใน e-mail ที่เราทำการลงทะเบียนไว้อีกครั้ง และก็ทำการกำหนดรหัสเป็น pin เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานตอนเปิดแอปขึ้นมา 

อยา่งที่บอกบริการที่ทางบุญเติม สามารถเติม หรือชำระค่าบริการได้นั้น ค่อนข้างจะครอบคลุมเยอะอยู่ ทั้ง  
เติมเงินมือถือ: ได้ทุกเครือข่าย AIS 1-2-Call, Dtac, TrueMove/ TrueMove H, My by CAT, TOT 3G, เพนกวิน, มายเวิลด์ ,มายเวิลด์

เติมเกม: Steam Wallet, Line Prepaid Card, MOL Points Card, Dot Arena, Top Eleven, Ex Cash, Cookie Card, Jam Card, Zest Card

ซื้อบัตรเงินสด: AIS 1-2-Call, TrueMoney, TOT

ซื้ออินเตอร์เน็ต: 3BB, True Wifi, TOT Wifi

จ่ายบิลน้ำ-ไฟ:
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การประปาส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้านครหลวง, การประปานครหลวง,

บิลมือถือและอื่นๆ: AIS รายเดือน, TrueMove/TrueMove H รายเดือน, AIS Fibre



ที่นี้มาลองใช้งานจริง ขั้นแรก ลองหาที่เติมไง ง่ายสุดก็ตู้บุญเติมเอง (แต่ตอนนี้บางตู้ (ก.พ.2561) เหมือนยังไม่ได้ทำการอัพเดท เมนูการเติม wallet ของเจ้า Be Wallet เองยังไม่มี แต่คงอีกไม่นานน่าจะได้รับการอัพเดทหมด  เทื่อเราเข้ามาที่เติม Wallet แล้วก็เลือก Be Wallet ซึ่งการเติมผ่านตู้บุญเติม จะไม่มีค่าบริการ


แต่ก็จะมีจำนวนกำหนดให้เรา คือ 50 100 200 300 500 และ 1000 เติมเป็นเศษไม่ได้ ซึ่งไม่เหมือนกับตู้ True money ที่ 1 บาทก็สามารถจะเติมได้ ซึ่งความจริงในเมื่อตู้เองก็สามารถหยอดเหรียญบาทได้ ความจริงก็น่าจะเติมเป็นเศษบาทได้ 55


หลังเติมเสร็จ ก็จะมีแจ้งเตือนเข้า e-mail mี่เราสมัครไว้ และรายการในแอปมันเอง แต่ไม่มีการแจ้งเป็น sms เหมือนของ True money 

ลองเติมเงิน จากที่บอกแล้วว่า ตู้บุญเติมสามารถเติมเงินมือถือของไทยได้ทุกค่าย ซึ่งเป็นจุดเด่น ที่เด่นกว่า wallet อื่นๆ พอๆ กับ Apay แต่ข้อดีของบุญเติมคือ สามารถเติมขั้นต่ำได้เพียง 10 บาทบวกค่าธรรมเนียม โดยขั้นต่ำ 2 บาทเหมือนกับการเติมผ่านตู้ ซึ่งในตรงนี้ก็อาจจะทำให้เป็นข้อเปรียบเทียบกับแอปอื่น ๆ ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเติม 


 เมื่อเลือกจำนวนที่ต้องการจะเติม ก็ทำการ "ยืนยันชำระเงิน"


จากนั้นเพื่อความปลอดภัย มันก็จะถามรหัสพินเราอีกครั้ง 

 
หลังจากทำรายการสำเร็จ ก็จะมี e-mail แจ้งเตือนไปยัง e-mail ของเรา หรือสามารถดูประวัติ รายการที่เราทำไปแล้วในแอปของมันได้เช่นกัน เหมือนกับแอปอื่นๆ 



สรุปว่า หากใครใช้งานผ่านตู้บุญเติมอยู่แล้ว เจ้าแอป Be Wallet น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง แต่สำหรับผู้ใช้งานรายอื่น ที่ใช้ wallet ที่มีอยู่แล้ว อย่างการเติมเงินที่ไม่มีค่าะรรมเนี่ยมนั้น mobile payment อย่าง Be wallet ก็คงต้องหาวิธี หรือการทำตลาดเพื่อดึงลูกค้ามาใช้งานแอป ซึ่งต้องรอดุต่อไปในอนาคต   

Lock LINE บน PC เมื่อไม่ใช้งาน

          ปกติเมื่อเราใช้งาน LINE บน PC ถ้าแบบว่าไม่ได้ใช้ที่บ้าน เช่นใช้งานที่ที่ทำงาน แล้วมีคนพลุกพล่าน ไม่ได้เป็นโต๊ะส่วนตัว บางครั้งเราใช้ LINE ในการทำงาน แล้วอาจจะออกไปจากโต๊ะแล้วลืม log out ออกจากระบบ อาจจะทำให่คนอื่นมาเปิดดูได้ ถึงแม้ว่าจะ 2-3 นาทีก็ตาม

บางท่านอาจจะทำการ lock ที่ PC ไว้แล้ว การตั้งค่า Lock ที่โปรแกรม Line PC ก็ไม่จำเป็นก็ได้ แต่ถ้าจะตั้งไว้กันไว้ ก็มาดูวิธีทำกันครับ



1. เปิดโปรแกรม LINE PC ขึ้นมา จากนั้นไปที่จุด 3 จุด มุมด้านล่างซ้ายมือโดย คลิก แล้วเลือกที่ ตั้งค่า (จะเห็นว่ามีเมนู ล็อค LINE อยู่ด้วยตรงแถบนี้ แต่มันจะล็อคทันทีครับ วิธีที่เราจะทำคือตั้งเวลาในการล็อคให้มัน) 


2.จากนั้นไปที่ ตั้งค่าเบื้องต้น เลือกมาทำเครื่องหมายในช่อง ล็อค LINE
 
3. จากนั้นจะมีข้อความแจ้งเตือนมาเพื่อยืนยันอีกครั้ง ให้เราเลือก ตกลง

จากนั้นจะมีเวลาให้เราเลือกว่า เมื่อไม่ใช้งานเป็นเวลาเท่าไร จึงให้มันทำการล็อค โดยมีตั้งแต่เวลา 3 นาที ถึง 3 ชั่วโมง


เมื่อเราตั้งค่าตามที่ต้องการแล้ว ตามเวลาที่เราไม่ได้ใช้งาน โปรแกรม LINE บน PC ก็จะทำการล็อคเป็นหน้าต่างให้เราป้อนรหัสใหม่ แล้วก็กดปลดล็อค แค่นี้ก็กลับมาใช้งานได้ปกติแล้วครับ


Advertisement