หากเดินไปทางไหน ไม่ว่าหน้า 7-11 หรือตามแหล่งชุมชนตอนนี้ เราจะพบเห็นตู้ "บุญเติม" เยอะมาก เรียกว่าในบรรดาตู้เติมเงิน แทบจะไม่ค่อยเห็นยี่ห้ออื่นแล้วในเดี๋ยวนี้ 55 และตอนนี้ทางบุญเติมเอง ก็ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น Be Wallet ออกมา เป็น Mobile payment ทางเลือกน้องใหม่อีกตัว ซึ่งแบรนด์ “บุญเติม” จากที่ผู้ใช้ทั่วไปคุ้นเคยดีจากตู้เติมเงิน น่าจะช่วยให้ Be Wallet เป็นที่ยอมรับและมีการใช้งาน
สำหรับใครที่อยากจะลองติดตั้งเพื่อใช้งานสามารถดาวน์โหลดทั้ง Android และ ios ดังนี้
สำหรับ android download ที่นี่
สำหรับ ios download ที่นี่
หลังจาก download มาเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการติดตั้งและลงทะเบียน ซึ่งไม่ยากครับ โดยขั้นแรกก็ทำการกรอหหมายเลขโทรศัพท์ที่เราใช้งาน
เติมเกม: Steam Wallet, Line Prepaid Card, MOL Points Card, Dot Arena, Top Eleven, Ex Cash, Cookie Card, Jam Card, Zest Card
ซื้อบัตรเงินสด: AIS 1-2-Call, TrueMoney, TOT
ซื้ออินเตอร์เน็ต: 3BB, True Wifi, TOT Wifi
จ่ายบิลน้ำ-ไฟ: การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การประปาส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้านครหลวง, การประปานครหลวง,
บิลมือถือและอื่นๆ: AIS รายเดือน, TrueMove/TrueMove H รายเดือน, AIS Fibre
ที่นี้มาลองใช้งานจริง ขั้นแรก ลองหาที่เติมไง ง่ายสุดก็ตู้บุญเติมเอง (แต่ตอนนี้บางตู้ (ก.พ.2561) เหมือนยังไม่ได้ทำการอัพเดท เมนูการเติม wallet ของเจ้า Be Wallet เองยังไม่มี แต่คงอีกไม่นานน่าจะได้รับการอัพเดทหมด เทื่อเราเข้ามาที่เติม Wallet แล้วก็เลือก Be Wallet ซึ่งการเติมผ่านตู้บุญเติม จะไม่มีค่าบริการ
แต่ก็จะมีจำนวนกำหนดให้เรา คือ 50 100 200 300 500 และ 1000 เติมเป็นเศษไม่ได้ ซึ่งไม่เหมือนกับตู้ True money ที่ 1 บาทก็สามารถจะเติมได้ ซึ่งความจริงในเมื่อตู้เองก็สามารถหยอดเหรียญบาทได้ ความจริงก็น่าจะเติมเป็นเศษบาทได้ 55
สำหรับใครที่อยากจะลองติดตั้งเพื่อใช้งานสามารถดาวน์โหลดทั้ง Android และ ios ดังนี้
สำหรับ android download ที่นี่
สำหรับ ios download ที่นี่
หลังจาก download มาเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการติดตั้งและลงทะเบียน ซึ่งไม่ยากครับ โดยขั้นแรกก็ทำการกรอหหมายเลขโทรศัพท์ที่เราใช้งาน
และจะได้ OTP แล้วนำ OTP มากรอก เพื่อยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของเลขหมายนั้นที่แท้จริง
และเราต้องไปกดยืนยัน Activate Email ใน e-mail ที่เราทำการลงทะเบียนไว้อีกครั้ง และก็ทำการกำหนดรหัสเป็น pin เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานตอนเปิดแอปขึ้นมา
อยา่งที่บอกบริการที่ทางบุญเติม สามารถเติม หรือชำระค่าบริการได้นั้น ค่อนข้างจะครอบคลุมเยอะอยู่ ทั้ง
เติมเงินมือถือ: ได้ทุกเครือข่าย AIS 1-2-Call, Dtac, TrueMove/ TrueMove H, My by CAT, TOT 3G, เพนกวิน, มายเวิลด์ ,มายเวิลด์
เติมเกม: Steam Wallet, Line Prepaid Card, MOL Points Card, Dot Arena, Top Eleven, Ex Cash, Cookie Card, Jam Card, Zest Card
ซื้อบัตรเงินสด: AIS 1-2-Call, TrueMoney, TOT
ซื้ออินเตอร์เน็ต: 3BB, True Wifi, TOT Wifi
จ่ายบิลน้ำ-ไฟ: การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การประปาส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้านครหลวง, การประปานครหลวง,
บิลมือถือและอื่นๆ: AIS รายเดือน, TrueMove/TrueMove H รายเดือน, AIS Fibre
แต่ก็จะมีจำนวนกำหนดให้เรา คือ 50 100 200 300 500 และ 1000 เติมเป็นเศษไม่ได้ ซึ่งไม่เหมือนกับตู้ True money ที่ 1 บาทก็สามารถจะเติมได้ ซึ่งความจริงในเมื่อตู้เองก็สามารถหยอดเหรียญบาทได้ ความจริงก็น่าจะเติมเป็นเศษบาทได้ 55
หลังเติมเสร็จ ก็จะมีแจ้งเตือนเข้า e-mail mี่เราสมัครไว้ และรายการในแอปมันเอง แต่ไม่มีการแจ้งเป็น sms เหมือนของ True money
ลองเติมเงิน จากที่บอกแล้วว่า ตู้บุญเติมสามารถเติมเงินมือถือของไทยได้ทุกค่าย ซึ่งเป็นจุดเด่น ที่เด่นกว่า wallet อื่นๆ พอๆ กับ Apay แต่ข้อดีของบุญเติมคือ สามารถเติมขั้นต่ำได้เพียง 10 บาทบวกค่าธรรมเนียม โดยขั้นต่ำ 2 บาทเหมือนกับการเติมผ่านตู้ ซึ่งในตรงนี้ก็อาจจะทำให้เป็นข้อเปรียบเทียบกับแอปอื่น ๆ ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเติม
เมื่อเลือกจำนวนที่ต้องการจะเติม ก็ทำการ "ยืนยันชำระเงิน"
จากนั้นเพื่อความปลอดภัย มันก็จะถามรหัสพินเราอีกครั้ง
หลังจากทำรายการสำเร็จ ก็จะมี e-mail แจ้งเตือนไปยัง e-mail ของเรา หรือสามารถดูประวัติ รายการที่เราทำไปแล้วในแอปของมันได้เช่นกัน เหมือนกับแอปอื่นๆ
สรุปว่า หากใครใช้งานผ่านตู้บุญเติมอยู่แล้ว เจ้าแอป Be Wallet น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง แต่สำหรับผู้ใช้งานรายอื่น ที่ใช้ wallet ที่มีอยู่แล้ว อย่างการเติมเงินที่ไม่มีค่าะรรมเนี่ยมนั้น mobile payment อย่าง Be wallet ก็คงต้องหาวิธี หรือการทำตลาดเพื่อดึงลูกค้ามาใช้งานแอป ซึ่งต้องรอดุต่อไปในอนาคต