แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Windows แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Windows แสดงบทความทั้งหมด

คัดลอก Path ไฟล์ (Files) หรือโฟลเดอร์ (Folder) แบบง่าย (Copy as path)

          เชื่อว่ายังไม่อีกหลายท่านที่ไม่ทราบว่า เราสามารถจะคัดลอกชื่อ หรือที่อยู่ของไฟล์ หรือ โฟลเดอร์นั้นๆ มาใช้งานได้ง่ายๆ เช่น บางครั้ง เรามีไฟล์จำนวนมาก เราต้องการเอาชื่อของมันไปทำรายงาน หรือทำ present ต่างๆ อาจจะมีหลายท่าน ยังใช้วิธีนั่งเข้าไปคัดลอกทีละชื่อ ๆ แล้วมาวางใน notepad word excel หรือ power point ต่างๆ วันนี้เรามีวิธีง่ายๆ ที่บางคนอาจจะยังไม่เคยใช้ (สามารถทำได้ตั้งแต่ Windows 7 ขึ้นไป)

คำว่า path คือ ที่อยู่ของไฟล์ หรือ โฟลเดอร์นั้นๆ เช่นจากไฟล์ทั้งหมดนี้ เราต้องการชื่อมันมาวางใน noepad เพื่อทำอะไรสักอย่าง

1.  กด shift แล้วคลิกขวาที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ เช่นจากรูปนี้ผมเลือกทั้งหมด แล้วเลือก Copy as path



2. เปิดโปรแกรม notpad ขึ้นมา (หรือโปรแกรมอื่นๆก็ได้ เช่น word excel หรือ power point ต่างๆ ) จากนั้นทำการวาง Paste หรือกด Ctrl + V

 3. จากนั้นเราก็จะได้ ชื่อไดร์ที่วางไฟล์นั้นอยู่ ตามด้วย ชื่อไฟล์ และ โฟล์เดอร์ ที่เราทำการเลือกไว้ตอนแรก  เพียงแค่นี้ก็สามารถนำไปใช้งานต่อได้ หากเราไม่เอาชื่อ ด้านหน้าก็ลบออกไป จะง่ายและเร็วกว่าที่เราจะมานั่งคัดลอกทีละชื่อๆ ครับ



วิธีแก้ The program can't start because api-ms-win-crt-runtime-l1-1-0.dll is missing

         วันนั้นทางผู้เขียนต้องการจะลง python-3.5.2 กะว่าจะลองลงเพื่อเขียนโปรแกรมเล่นหน่อย แต่หลังจาก download python-3.5.2 มาเรียบร้อย พอจะทำการลง ไม่สามารถลงได้ (โดยระบบปฏิบัติการที่ใช้คือ  Windows 7 Pro 64 bit)  โดยมีข้อความเตือนขึ้นว่า

"The program can't start because api-ms-win-crt-runtime-l1-1-0.dll is missing"


เลยทำการค้นหาดูใน google พบว่ามีคนเคยเจออาการนี้เหมือนกัน พบวิะีแก้ปัญหาคือ 

1. ทำการดาวน์โหลด vcredist_x86.exe (32-bit) หรือ vcredist_x64.exe (64-bit) ตามระบบปฏิบัติการของเราที่ใช้งานอยุ่  โดยสามารถดาวน์โหลด
Visual C++ Redistributable for Visual Studio 2015 ได้จากลิงก์นี้ 

https://www.microsoft.com/en-us/download/details.aspx?id=48145 


สำหรับ Windows 64-bit และ สำหรับ Windows 32-bit

2. จากนั้นทำการรัน vcredist ที่ดาวน์โหลดมา โดยการรัน exe และกด Install จากนั้นรอจนกว่าติดตั้งเสร็จ



 
3. เมื่อลงเสร็จ ทดสอบติดตั้ง python-3.5.2 ใหม่  จะสามารถลงได้ปกติ



 

เปลี่ยนมุมมอง (View) ของ Folder ใน windows ให้เหมือนกันหมดทุกๆ Folder

          ไม่รู้ใครเคยรำคาญเหมือนผมไหม เวลาใช้งาน WINDOWS แล้ว Folder ภายใน My computer มันจะแสดงไม่เหมือนกัน เพราะบางครั้งเราปรับเป็นแบบ Large icons แบบ Tiles หรือแบบ Detailes พอเปิดไปอีกที่ก็เป็นอีกแบบนึง แต่จริงๆมันมีการปรับให้มันเหมือนกันหมด มาดูวิธีกัน 

1. ขั้นแรก ดูตัวอย่างมุมมองของ Folder แบบ Large icons

ซึ่งหน้าตาก็จะได้แบบนี้ แต่ถ้าเราเปิดไปดูใน Folder ต่างๆ จะพบว่าบาง Folder จะโชว์เป็นแบบ List บ้าง Tiles บ้าง ซึ่งเราไม่ต้องการ 






2. สมมติในที่นี้ ผมจะเปลี่ยนเป็นแบบ Large icons ของ Folder/File ทั้งหมดในการ views ใน my computer ก็ให้เราทำการปรับใน Folder ไหนก็ได้ Folder หนึ่ง โดย

2.1 สามารถคลิกขวาในพื้นที่ว่าง เลือก View >เลือกแบบให้เป็นที่เราต้องการ

 2.2 และสามารถเลือกการ sort พร้อมกันได้ด้วย เช่น เรียงตามวันที่ โดยคลิกขวาในพื้นที่ว่าง > เลือก Sort by 
 
3. จากนั้นให้ไปที่ Control Panel > Appearance and Personalization > File Explorer Options 

(หรือสำหรับ Windows 10 เลือก Options > Change folder and search options ) 

4. จะพบหน้าต่าง Folder Option  จากนั้นเลือกมาที่ Tab view แล้วทำการกดปุ่ม Apply to all Folder จากนั้นให้กด OK



หลังจากนั้นทุก Folder ใน My computer ของเราก็จะกลายเป็นมุมมองที่เราตั้งไว้ทั้งหมดครับ 

บันทึกพร้อมวันเวลาด้วย Notepad



          การบันทึก หรือเขียนข้อความ แล้วให้มีวันเวลาโชว์ไว้ ด้วย Notepad  ก็คือเรื่องที่จะกล่าวในวันนี้ บางท่านอาจจะทราบแล้ว ก็ผ่านได้เลยนะครับ  วิธีการก็คือ เปิดเจ้าโปรแกรม Notepad ขึ้นมา สามารถเปิดได้ 2 วิธี
 
1. ไปที่ Start > All Program > Accessories > Notepad  ตามรูป 



 2. คลิกที่ Start > Run พิมพ์ notepad และกด OK 
เมื่อเราเปิด Notepad ขึ้นมาแล้ว จากนั้นให้พิมพ์ .LOG ที่ด้านบน Notepad  ตามรูปด้านล่าง 
วิธีการคือ ให้เราพิมพ์ .LOG ไว้ด้านบนแล้ว เมื่อเราจะทำการเรียกใช้ให้เรากด F5 เพื่อแทรกเวลาและวันที่ปัจจุบัน (ตามเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา )

 
เพียงง่ายๆแค่นี้เราก็จะได้บันทึกไว้ดูแล้ว และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานอื่นๆได้อีกด้วยครับ

วิธีง่ายๆ สามารถใช้ LAN 2 วงได้พร้อมกันโดย route add

          Notebook ทั่วไปเดี่ยวนี้ หรือพวก PC All in One จะมีแค่ 1 Port LAN และ 1 Wireless LAN ซึ่งบางครั้งเราเอาไปใช้ในที่ทำงาน หรือที่ไหนก็ตามที่ต้องใช้งานเครือข่าย 2 วงเช่นวงนึงเล่น Internet วงหนึ่งเล่น Intranet ของบริษัท ( ขอกล่าวภาษาง่ายๆ เพื่อไม่งงครับ)  โดยปกติหน้าที่การจัด routing ของบริษัทเป็นหน้าที่ของ IT บริษัทที่จะกำหนดว่าจะให้เล่นอะไรได้บ้าง แต่ในกรณีนี้หมายถึงบริษัทให้สามารถเข้าได้ทั้ง Internet และ Intranet แต่ว่าต้องสลับกันเข้า หรือถ้าจะเข้า internet ต้อง Disable วงที่เล่น Intranet ออก 

- สมมติวง Internet ใช้ LAN มี Gateway 172.16.149.1
- สมมติวง Intranet ใช้ Wireless LAN Gateway ที่ต้องใช้ 202.1.2.1  

วิธีดู IP rounter หรือที่เรียกว่า Default gateway ก็ ไปที่ start -> run พิมพ์  cmd >> ipconfig


หลักการคือ
route delete 0.0.0.0 mask 0.0.0.0 (ลบ Default Gateway  เก่าของเครื่องออก)
route add 0.0.0.0 mask 0.0.0.0 x.x.x.x (x.x.x.x ใส่ค่า Gateway ของ Internet )
route add y.y.0.0 mask 255.255.0.0 y.y.y.y (y.y.y.y ใส่ค่าGateway ของ intranet)


ความหมายคือ
1.ลบ Default Gateway  เก่าของเครื่องออก
2.แอดค่า Gateway  ไว้ที่สามารถออก Internet  เป็นตัวหลัก เพราะปกติเราจะใช้เล่นเน็ตเยอะ
3.แอดค่า Gateway  ที่ใช้ใน Intranet  ของเราเอง
4.แอดเกตเวย์ Intranet ต่ออีกก็ได้ถ้ามีหลายช่อง

          ดังนั้น เราสามารถเพิ่ม ROUTE โดยเปิด Wi-Fi ต่อเข้าวง Intranet  และ LAN ต่อกับวงที่สามารถเล่น Internet ได้

     route add  destination mask 255.255.255.0 gateway



1. ROUTE ADD 0.0.0.0 MASK 0.0.0.0 172.16.149.1  –P (สำหรับ Intranet )
หมายหตุ : 
1. -p เป็นการบันทึกเส้นทางแบบถาวร restart  ไม่หายครับ 
2. ถ้าต้องการดู routing table พิมพ์ route print -4  ตัว -4 ใช้ดูเฉพาะ IPv4


2. ROUTE ADD 172.1.3.0 MASK 255.255.255.0 202.1.2.1 –P (สำหรับ Intranet  >  อันนี้เป็นการบอกว่า ถ้าไปกลุ่ม IP  172.1.3.x ให้ผ่านทาง  202.1.2.1

3.ROUTE ADD 192.168.3.0 MASK 255.255.255.0 202.1.2.1 –P  > >  อันนี้เป็นการบอกว่า ถ้าไปกลุ่ม IP  192.168.3.x  ให้ผ่านทาง  202.1.2.1
จากนั้นใช้คำสั้ง route print ดู  จะเห็นว่า ตามข้อ 2 ได้เพิ่มขึ้นมาแล้ว



จากนั้นก็ทดสอบเข้าเว็บต่างๆดูครับ ในตอนนี้เราก็จะสามารถเข้าเว็บ Internet และ เข้าเว็บใน Intranet ของเราได้แล้วครับ

Safe Mode ใครคิดว่าไม่สำคัญ

          วันนี้นั่งๆไป มานึกถึงการบ้านข้อหนึ่งที่อาจารย์เคยให้ทำ โจทย์มันก็คือ ให้ดูภาพและให้แสดงแนวคิดว่าภาพต้องการคำตอบอะไร หรือภาพต้องการสื่ออะไร ให้เขียนคำบรรยายตามแนวคิดในแง่มุมต่าง ๆ ของนักศึกษาเอง (ถ้ามองว่ามันเกี่ยวข้อง) หรือ เช่น ด้านเศรษกิจ, สังคม, ศาสนา, วัฒนธรรม, สิ่งแวดล้อม, สุขภาพ, การเมือง, กฏหมาย, เทคโนโลยี เป็นต้น
          ข้ออื่นไม่เท่าไร แต่มีอยู่ข้อหนึ่งครับเป็นรูปเกี่ยวกับหน้าต่าง Advance Boot Options ในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ Notebook ของเราๆนั่นเอง มาดูกันว่าภาพที่ให้มาต้องการสื่ออะไร

          
          หน้าต่างนี้ใน Windows 7 ถ้าเราใช้ PC, Notebook โดยบางครั้งเราเข้า  Windows ปกติไม่ได้ เช่นหลังลงโปรแกรมใหม่ หรือหลังจากเพิ่ม Hardware ใหม่เข้าไปในเครื่องเรา หรือเป็นตอนที่ Windows มีปัญหาปิดตัวเองโดยไม่ได้ Shutdown แบบ ส่วนมากแล้ว จะเคยเห็นเมนู  Advanced Boot Options  วิธีพื้นฐานถ้ามันยัง Boot ขึ้นก็คือการเข้า  Safe mode   โดยกดคีย์  F8  ก่อนที่ Windows จะเริ่มทำงานเมื่อสตาร์ตมาใหม่ จากนั้นก็จะมีเมนู Advanced Boot Options มาให้เลือกที่จะเริ่ม Windowsในลักษณะใด เช่น
- Safe Mode
- Safe Mode with Networking 
- Safe Mode with Command Prompt
- Enable Boot Logging
- Enable Low Resolution Video (640 X 480
- Last Know Good Configuration (advanced) : ในรูปเป็นการเลือกหัวข้อนี้ไว้ โดยจะเป็นการเริ่ม Windows 7 ด้วยค่า Registry ล่าสุดและไดร์เวอร์ที่ทำงานปกติครั้งล่าสุด  (เพราะปกติทุกครั้งที่คุณเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา Windows 7 จะบันทึกค่าระบบที่สำคัญไว้ เมื่อเครื่องมีปัญหา เราจะสามารถใช้ค่าระบบที่บันทึกไว้มาใช้ได้ เพื่อให้ Windows 7 กลับไปใช้ค่าระบบตอนที่เครื่องเราเป็นปกติ 
- Directory Services Restore
- Debugging Mode
- Disable Automatic Restart on System Failure
- Disable Driver Signature
- Start Windows Normally 

แต่ถ้าดูให้ดี ถ้าเรากด F8  จะพบความแตกต่างคือ  

  
Reform Your computer    ปกติจะต้องเป็น Repair Your Computer
Corruption Mode     ปกติจะต้องเป็น  Safe Mode
Corruption Mode with Networking    ปกติจะต้องเป็น  Safe Mode with Networking
Corruption Mode with Commando Prompt  ปกติจะต้องเป็น  Safe Mode with Command Prompt
  
   โดยมีการแก้ไข 4 บรรทัดที่  Reform Your computer , Corruption Mode Corruption Mode with Networking และ Corruption Mode with Commando Prompt 
          และหากทำการซูมเข้าไป  จะเห็นว่าตัวอักษรปกติกับที่มีการแก้ไข  ตัวอักษรหน้าจอที่ Capture มาจากการกด F8 จะไม่เหมือนกัน  แสดงว่ามีการแก้ไขเพื่อวัถตุประสงค์อะไรซักอย่าง  โดยวงสีเขียวคือปกติ ส่วนวงสีแดงคือมีการแก้ไข


สรุป : ความต้องการของรูปนี้จะเกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยี ในเรื่องคอมพิวเตอร์  ในเรื่องการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์กรณีต้องเข้าในโหมด Safe Mode โดยการกด F8 แต่จากรูปที่ให้มาจะเห็นว่ามีการแก้ไขเกี่ยวกับหัวข้อที่กล่าวไปก่อนหน้านั้น ซึ่งจุดประสงค์การแก้ไขไม่แน่ชัดว่าต้องการแก้ไขให้แตกต่างจากของปกติโดยการกด F8 อย่างไร  อาจจะเป็นข้อสอบสำหรับนักศึกษา หรืออาจจะใช้ในการทดสอบรับบุคคลเข้าทำงานในงาน IT ขององค์กร หรืออื่นๆ โดยในรูปมีการเลือกมาที่หัวข้อ Last Know Good Configuration (advanced) โดยหากเรามองผ่านๆ ตัวหนังสือบรรทัดที่โดนแก้ไขเราก็จะไม่ทันสังเกต และไปพุ่งที่ประเด็นการอธิบายการทำงานของ Last Know Good Configuration (advanced)


Compatibility View หรือ "มุมมองที่เข้ากันได้" ของ IE 9

          พอดีเพื่อนต้องการจะเข้าไปดู website แห่งหนึ่ง  ซึ่งตอนนี้เครื่องเค้าใช้ Browser เป็น Internet Explorer 9 พบว่าไม่สามารถที่จะเลือกเมนูอะไรได้เลย ซึ่งลองกับตัวอื่นๆเช่น Firefox,Chrome ก็เข้าได้ปกติ แสดงว่าปัญหาน่าจะมาจากเจ้ตัว IE 9


วิธีแก้ไข "มีปัญหากับใบรับรองความปลอดภัยของเว็บไซต์นี้"

          หลายท่านที่ประสบปัญหา เมื่อเปิดเข้าเว็บไซด์แล้วเจอว่า ไม่สามารถเข้าได้ เช่นพวก Gmail.com ,Hotmail.com จะเจอหน้าจอบอกว่า  "มีปัญหากับใบรับรองความปลอดภัยของเว็บไซต์นี้"   ซึ่งเว็บไซต์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเหล่านี้ จะมี Certificate (เรียกง่ายๆว่าใบรับรอง) เพื่อเป็นการป้องกันและยืนยันตัวตนของผู้ที่จะเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ บางครั้ง Certificate นั้นหมดอายุหรือใช้การไม่ได้  ( HTTPS ย่อมาจาก Hypertext Transfer Protocol over Secure Socket Layer หรือ HTTP over SSL)

          ซึ่งวันนี้ในขั้นต้น จะไม่ขอกล่าวถึงเรื่องใบรับรองนั่นก่อน แต่เป็นปัญหาที่หลายคนคาดไม่ถึงคือวันที่ในเครื่องกับเวลาไม่ตรงตามปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ผมลองเปิด Gmail ทั้ง 3 browser สังเกตุรูปสุดท้าย ได้โชว์ให้เห็นวันที่ด้วย ว่าเป็นวันที่ 14 กรกฎาคม 2551 (ซึ่งที่จริงวันนี้เป็นวันที่ 14 กรกฎาคม 2555)

Internet Explorer



วิธีใช้ปุ่ม Print screen

          วันนี้จะเขียนวิธีการใช้ปุ่ม Print screen ซึ่งโดยปกติแล้วการจับภาพหน้าจอ เรามีวิธีการใช้ปุ่ม Print screen ( แต่หากท่านใช้ Windows 7 จะใช้ จับภาพหน้าจอด้วย Snipping Tool แทน PrintScreen ใน Window 7 )

มาดูวิธีกันครับ
สมมติว่าเราเปิดหน้าจอขึ้นมาธรรมดาหน้าหนึ่งเป้นดังรูปข้างล่าง ซึ่งจะเห็นว่าผมได้เปิดไว้สองหน้าต่าง





จับภาพหน้าจอด้วย Snipping Tool แทน PrintScreen ใน Windows 7

     ปกติเมื่อก่อนใช้ Windows XP อยู่ เวลาจะจับภาพหน้าจอ ถ้าไม่ได้โปรแกรมอื่นๆช่วย วิธีการก็คือ เราจะใช้ PrintScreen แล้วไปวางในพวก Paint อีกที ซึ่งก็หลายขั้นตอนพอสมควร แต่วันนี้พอใช้ Window 7 มันจะมีโปรแกรมจับภาพหน้าจอด้วย Snipping Tool แทน PrintScreen ใน Windows 7 มาลองดูกัน

โดยคลิกเลือกที่ Start > Accessories  > Snipping Tool

จะได้หน้าต่างโปรแกรมขึ้นมา 
 
โปรแกรมสำหรับการจับภาพหน้าจอ สามารถเลือกจับภาพได้หลายวิธี
  • Free-Form Snip - เลือกการจับภาพได้ตามความต้องการ
  • Retangular Snip - จับภาพในรูปแบบสี่เหลี่ยม
  • Windows Snip - จับภาพ Windows ที่ใช้งานปัจจุบัน
  • Full Screen Snip - จับภาพทั้งหน้าจอ
ลองใช้กันดูนะครับ ตัวอย่างนี้ผมเลือกแบบ  Free-Form Snip - เลือกการจับภาพได้ตามความต้องการ




Advertisement