แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาหารภาคใต้ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาหารภาคใต้ แสดงบทความทั้งหมด

ผัดพริกแกงกุ้งใส่สะตอ

    พอนึกถึงผัดพริกแกงกุ้งใส่สะตอ กับข้าวสวยร้อนๆแล้วก็คงทำให้หลายคนเกิดอาการอยากกินข้างขึ้นมาทันที วันนี้มาลองหัดทำกันเลยดีกว่า แล้วจะบอกว่าง่ายมากๆ แถมวัตถุดิบก็มีไม่กี่อย่าง พระเอกนากเองงานนี้ก็คงหนีไม่พ้น กุ้งกับสะตอค่ะ

เครื่องปรุง
1. พริกแกงเผ็ด
2. กะปิเคอย
3. น้ำปลา
4. น้ำมันพืช
5. กุ้ง
6. สะตอ (พระเอกของเมนูนี้เลยล่ะ)



วิธีทำ

   ตั้งกะทะเทน้ำมันลงพอประมาณ ตามด้วยพริกแกงเผ็ดและกะปิเคอย ผัดจนกลิ่นหอม

 
จากนั้นก็ใส่สะตอที่ปลอกผ่าครึ่งแล้วลงไป ผัดจนสะตอเริ่มสุกใส่น้ำปลาเพิ่มรสชาดเล็กน้อย



                          เติมน้ำต้มสุกหรือน้ำซุบได้นะค่ะ เพื่อไม่ให้ติดกะทะจนเกินไป

                        ตามด้วยใส่กุ้งลงไปผัดให้เข้ากัน พอกุ้งสุกก็ตักใส่จานได้เลยล่ะคะ


                             หน้าตาน่าทาน ผัดสะตอใส่กุ้ง กินกับข้าวสวยร้อนๆ



หมูผัดพริกแกงถั่วฝักยาว

          หมูผัดพริกแกงถั่วฝักยาว เป็นอาหารอีกจานที่ทำได้ง่ายๆ ใช้เวลาปรุงไม่นาน วันนี้มาแนะนำเมนูนี้กัน ก่อนอื่นเราก็มาดูส่วนผสมกันก่อน

 ส่วนผสมหมูผัดพริกเเกงถั่วฝักยาว  

1. หมูเนื้อแดง ( หรือหมู 3 ชั้น)
2. ถั่วฝักยาว
3. น้ำมันพืช
4. น้ำตาลทราย
5. น้ำปลา
6. พริกชี้ฟ้าแดง
7. พริกแกงเผ็ด
8. กระเที่ยม
9. พริกไทยอ่อน
10.ใบมะกรูด





วิธีการทำ

1. หั่นถั่วฝักยาวแบบเฉียง พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง  และหมูสามที่เตรียมไว้


 2. ตั้งน้ำมันในกระทะใช้ไฟร้อนพอปานกลาง จากนั้นเอากระเทียวเจียวน้ำมัน (น้ำมันไม่ต้องเยอะ บางสูตรก็เอาหมูผัดกับพริกแกงเลย ไม่ใส่น้ำมัน อันนั้นแล้วแต่สุตรใครสูตรมัน) เอาหมูลงผัดจนเกือบสุก


3.  จากนั้นจึงใส่เนื้อหมูและถั่วฝักยาวลงไป ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม ผัดจนเนื้อหมูเกือบสุกและถั่วฝักยาวนิ่ม


3. บางที่จะใส่กะทิลงไปเล็กน้อย ผัดสักพักให้เข้ากันดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลและเกลือ ตามชอบ ถ้าให้ดี ใส่พริกไทยอ่อนและใบมะกรูด จะหอมมาก จากนั้นก็รับประทานได้เลย


แกงไตปลา อย่างง่าย

          แกงไตปลา เป็นอาหารพื้นบ้านทางภาคใต้ ใครไปเที่ยวใต้ ต้องลอง ถ้าไม่ได้ลองแสดงว่ายังไปไม่ถึงปักษ์ใต้ 55 แต่เดี๋ยวนี้ส่วนมากแกงไตปลาหากินได้ทั่วไปทั้งใน กทม. หรือที่ต่างๆ เพราะมีร้านอาหารใต้เปิดอยู่ทั่วไป
          วันนี้จะมาลองทำแกงไตปลากัน ก่อนอื่นหาซื้อไตปลามาก่อน ขวดนี้ไปหาได้แถวร้านของชำแถวหอที่พักอยู่ (แถวๆอยุธยา บังเอิญแกเป็นคนใต้ มีขายซะด้วย)

 

กลับมาเตรียมเครื่องแกงกันต่อ เครื่องแกง ที่เค้าใส่ๆ จะประกอบด้วย
1. พริกขี้หนูแห้ง
2. พริกขี้หนูสด
3. พริกไทย
4. หอมแดง
5. กระเทียม
6. ขมิ้น
7. ข่าหั่นบางๆ
8. ตะไคร้
9. กะปิ
ส่วนใครจะชอบรสชาดยังไง ก็กะกันเอาเองนะครับ สูตรใครสูตรมัน แต่พอดีได้ซื้อเครื่องแกงสำเร้จรูปไว้ สบายเลย สามารถปรุงได้ทั้นที


วิธีทำ


- นำเครื่องแกงทั้งหมดมาโขลกให้ละเอียด ( สำหรับคนที่ยังไม่ได้เตรียมไว้ )

- ต้มไตปลาที่เตรียมไว้ ในน้ำประมาณเอา ตั้งไฟให้ไตปลาละลาย แล้วนำมากรองเอาแต่น้ำ  จากนั้นเอาน้ำไตปลาที่กรองไว้แล้วมาตั้งไฟอีกที เอาเครื่องแกงที่เตรียมไว้ใส่ลงไป

- รอจนน้ำแกงเดือด และให้เครื่องแกงละลายหมดแล้ว ใส่ปลาย่างลงไป ตามผักที่เตรียมไว้ เช่นพวกมะเขือ ถั่วฝักยาว แต่วันนี้ขอใส่เป็นฟักทองกับมะเขือ ใส่ลงไปตามต้องการ เติมน้ำให้พอเหมาะแล้วชิมรส ปรุงให้ถูกใจ   (ต้องลองชิมดูก่อนอย่าเพิ่งใส่เกลือลงไป เพราะตามปกติ ไตปลาที่ขายจะเค็มอยู่แล้ว เดี๋ยวใส่เยอะไปจะกินไม่ได้ 555)


- จากนั้นตั้งใฟจนเดือดซักพัก ดูผักที่ใส่ให้พอสุก ใส่น้ำตาลสักนิด  แล้วก็ฉีกใบมะกรูดที่เตรียมไว้ใส่ลงไป 

แล้วยกหม้อลงจากเตา ทานกับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียว หรือทานกับขนมจีนก็เข้ากันดี ผักเคียงก็แล้วแต่หาได้

 เสร็จละ ที่นี้ก็ตักข้าวร้อนๆซักจาน หรือกินกับขนมจีนก็อร่อยไปอีกแบบ ลองทำกันดูนะครับ ไม่ยากๆ แล้วจะบอกว่า หรอยจังฮู้!!

แกงเคอยปลา (อาหารปักษ์ใต้โดยแท้)

    แกงเคอยปลา (อาหารปักษ์ใต้โดยแท้) พอพูดถึงกลิ่นเคอยปลา หลายคนคงร้องหยีกับกลิ่นเหม็นๆของมันซะเหลือเกินแต่พอปรุงเสร็จพร้อมรับประทานเมื่อไหร่ หลายคนก็มักจะติดใจในรสชาด มาดูวิธีการทำเลยดีกว่าค่ะ 
เครื่องปรุง
1. เคอยปลา
2. ขมิ้น
3. พริกแกงเผ็ด
4. เคอยกะปิ
5. เนื้อปลาย่าง
6. ผักสด (มะเขือ ถั่วฟักยาว มะเขือพวง ฯลฯ)





ส่วนนี่ เคอยปลา พระเอกของเราสำหรับหม้อนี้ 


วิธีทำ
ก่อนอื่นต้องนำเคอยปลาไปละลายในน้ำเดือดๆ เพื่อกรองเอาก้างปลาออกให้หมด ตั้งหม้อให้เดือดทุบขมิ้นสัก 1-2 หัว (เพื่อดับกลิ่น) ตามด้วยเคอยปลาลงไปละลาย เน้นนะค่ะว่าน้ำต้องเดือดเพื่อลดกลิ่นคาวของปลา


          เมื่อได้นำเคอยปลาแล้ว นำมาตั้งหม้อ เติมพริกแกงเผ็ดลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (อันนี้เพิ่ม หรือ ลดได้ตามความชอบค่ะ) ต่อด้วยเคอยกะปิครึ่งช้อนชา รอให้พริกแกงกับเคอยกะปิละลายหมด


จากนั้น ก็ให้ใส่เนื้อปลาย่างลงไป ตามด้วยผักนานาชนิด ตอนใส่ผักหม้อควรจะเดือดนะค่ะ เพื่อไม่ให้ผักกระด้างไม่น่ารับประทาน ชิมรสตามชอบ



ปิดท้ายด้วยใบมะกรูดเพื่อเพิ่มความหอมอีกสักนิด เท่านี้ก็จะได้แกงเคอยปลาที่สุดแสนจะอร่อยแล้วล่ะค่ะ


แกงกะทิเห็ดแครงใส่หมู

          เห็ดแครง หรือ เห็ดตีนตุ๊กแก (Schizophyllum commune) เป็นเห็ดที่ขึ้นได้ทั่วทุกภูมิภาคทั่วโลกและงอกได้ตลอดปี เป็นเห็ดขนาดเล็กลักษณะคล้ายเปลือกหอยแครง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-4 เซนติเมตร รูปร่างคล้ายพัด ไม่มีก้านดอก เป็นที่รู้จักมากในแถบภาคใต้ พบมากบนท่อนไม้ยางพาราที่ตัดทิ้งไว้ มีคุณค่าทางโภชนาการ มีคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนสูง นิยมนำมาแกงคั่วกับปลาย่าง หรือนำมาย่างโดยโขลกพริกขี้หนู ข่า ตะไคร้ ขมิ้น พริกไทย แล้วนำเห็ดแครงผสมลงไป พร้อมด้วยมะพร้าวขูด และไข่ไก่ แล้วห่อด้วยใบตองนำไปปิ้งกับเตาถ่าน และนำมาทำ แกงสมรม ซึ่งเป็นแกงที่ขาดไม่ได้ สำหรับงานบุญสารทเดือนสิบ ส่วนในประเทศญี่ปุ่นจะใช้ทำเป็นยาเนื่องจากมีสารที่มีคุณสมบัติในการต่อต้าน เชื้อไวรัสและยับยั้งเซลล์มะเร็ง  (ข้อมูลจาก th.wikipedia.org)


image
          กลับบ้านครั้งนี้แม่เก็บไว้ให้ถาดนึง เป็นเห็ดแครงที่ขึ้นที่สวนยางพาราที่ข้างบ้านที่พึ่งโค่นไปไม่นาน จากที่เห็นเต็มถาดแบบนี้ แกงได้อีกหลายครั้งทีเดียว  อย่างที่บอก มันสามารถเก็บไว้ได้นาน วันนี้เลยเอามาแกงกะทิใส่หมูกัน  ก็แบ่งมาซะหน่อยครับ จะเห็นว่ารูปซ้ายมือ มันแห้งแล้วจะดูว่าน้อย จากนั้นให้เราเอาแช่น้ำไว้ซัก 15 นาที โห เยอะขึ้นมาเลย ให้มันพองแบบนี้ ล้างให้สะอาดอีกครั้งก็เตรียมขั้นตอนต่อไป
 2013-08-04 10.02.57 2013-08-04 10.36.52
เครื่องปรุง
1.เห็ดแครง (ตามที่เราเตรียมไว้ก่อนหน้า)
2.กะทิ (เอาแต่หัวกะทิ)
3.เนื้อหมูหั่นชิ้น หรือกุ้งก็ได้ ตามแต่ชอบ
4.พริกแกงคั่ว
5.กะปิ
6.เกลือ
วิธีทำ
ใส่หัวกะทิตั้งไฟพอให้แตกมัน จากนั้นใส่พริกแกงคั่วประมาณ 1 ช้อโต๊ะ กะปิ ครึ่งช้อนโต๊ ละลายให้เข้ากัน เติมเกลือครึ่งช้อนชา เมื่อหม้อเดือดแล้ว ก็เติมเนื้อหมูลงไป ทิ้งไว้ประมาณ 10 ถึง 15 นาทีจากนั้นก็เอาเห็ดแครงใส่ลงไป ปิดฝาตั้งหม้อให้เดือดต่ออีกเล็กน้อย จนกว่าเห็ดแครงสุก ชิมรส ปรุ่งตามใจชอบ
2013-08-04 10.59.11
เท่านี้ก็จะได้แกงกะทิเห็ดแครงหมูมากินกับข้าวร้อนๆแล้ว

2013-08-04 11.21.20

ผัดเห็ดแครงใส่ไข่

         ครั้งที่แล้วก็ทำ แกงกะทิเห็ดแครงใส่หมู  เห็ดแครงยังเหลืออยู่ในตู้เย็นอยู่ บอกแล้วว่าเห็ดแครงแห้งสามารถเก็บไว้ได้นานครับ วันนี้เลยเอามาทำอะไรง่ายๆอีกอย่างหนึ่งคือ ผัดเห็ดแครงใส่ไข่ ขั้นแรกมาดูส่วนประกอบกันก่อน
ส่วนประกอบ
1.เห็ดแครง  1 ถ้วย
2. น้ำปลา
3.กระเทียมทุบ
4.เกลือป่น
5.น้ำมัน 

วิธีทำ
1.ล้างเห็ดแครงให้สะอาด ใส่ตระแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมผัดพอหอม
3.ใส่เห็ดแครง ผัดต่อจนเห็ดแครงเกือบสุก

  4.ตอกไข่ใส่ ผัดซักพัก เติมรสชาดตามอัธยาศัย


..เป็นอันเรียบร้อย ผัดเห็ดแครงใส่ไข่ กินกับข้าวสวยร้อนๆ ^_^
  


แกงกะทิสับปะรดหมู (แบบภาคใต้)

                                              แกงกะทิสับปะรดหมู (แบบภาคใต้)

    วันนี้ผู้เขียนจะแนะนำเมนูอาหารที่ทำง่ายๆอีกหนึ่งเมนู แกงกะทิสับปะรดหมู (แบบภาคใต้) ที่บอกว่าแบบภาคใต้เพราะผู้เขียนเลือกใช้พริกแกงใต้ที่มีสีเหลืองของขมิ้นชวนให้น่ากินยิ่งขึ้นไปอีก ว่าแล้วเรามาดูวิธีการทำกันเลยดีกว่า
เครื่องปรุง
1. สับปะรดหั่นเป็นชิ้นพอคำ
2. เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้น
3. กะทิ (ทั้งหัวและหาง)
4. พริกแกงเผ็ด
5. กะปิ (เคอย)
6. เกลือ


วิธีทำ
เริ่มต้นด้วยการเคี้ยวหัวกะทิให้พอแตกมัน ใช้ไฟอ่อนๆก็พอ (เดี๋ยวกะทิจะเป็นก้อน) จากนั้นใส่พริกแกงเผ็ดลงประมาณครึ่งช้อนโต๊ะ !อันนี้เพิ่มได้ตามความชอบ ชอบเผ็ดก็ใส่ลงไปเพิ่มได้อีกเหมือนผู้เขียนขอเป็น 1 ช้อนโต๊ะเลยแล้วกัน เคี้ยวให้เข้ากันตามด้วยกะปิเคอยอีกประมาณครึ่งช้อนโต๊ะ เคี้ยวส่วนผสมให้เข้ากันแต่ตั้งหม้อให้เดือดค่อยใส่เนื้อหมูลงไป เติมเกลือสักครึ่งช้อนชา



ตั้งหม้อทิ้งไว้ให้เนื้อหมูสุกค่อยใส่สับปะรดที่หั่นเป็นชิ้นไว้แล้วลงไป ทิ้งให้สับปะรดเข้ารสเครื่องปรุงต่ออีกสัก 10 นาที เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย

และแล้วครั้งนี้ผู้เขียนก็หิวเกินไป จนลืมถ่ายภาพก่อนยกมาเสริฟซะงั้น แค่คิดว่าทุกท่านคงพอจะนึกภาพออกกันเนอะ ^_^ พอดีลืมถ่ายรูปตอนตักใส่ถ้วย ซะงั้น 55

แกงส้มปลาทับทิมใส่ลูกม่วง (มะม่วง)

          วันนี้มีเมนูแกงปักษ์ใต้มาแนะนำอีก 1 เมนูคือ แกงส้มปลาทับทิมใส่ลูกม่วง (มะม่วง)                              
เครื่องปรุง
1.    พริกแกงส้ม (แกงเหลืองทางใต้)
2.    กะปิ
3.    ปลาทับทิม (หั่นเป็นชิ้น)
4.    มะม่วงหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
5.    เกลือ  / น้ำปลา (สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มความเค็ม)

                                  


 


วิธีทำพริกแกงส้ม
    เครื่องปรุง
1.    พริกแห้ง แช่น้ำให้นุ่ม 7-10 เม็ด
2.    ข่า / ตะไคร้ หั่นเป็นชิ้น 1 ช้อนโต๊ะ
3.    ขมิ้นสด หั่นเป็นชิ้น 1-2 ท่อน
4.    หอมแดง หั่นเป็นชิ้น 1-2 หัว
5.    กระเทียม หั่นเป็นชิ้น 1-2 หัว
6.    ผิวมะกรูด (พอประมาณ)
7.    เกลือ
     โครกทุกอย่างรวมกันให้ละเอียดเท่าเท่านี้เองคุณก็จะได้พริกแกงส้ม ไว้แกงแล้วค่ะ หรือหากใครไม่สะดวกจะนั่งโครกเอง ก็ซื้อสำเร็จมาเลยก็ได้ เดี๋ยวนี้ที่ตลาดมีขายแทบทุกอย่าง ทุกประเภทเลยแหละค่ะ

วิธีทำแกงส้ม
     ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่พริกแกงส้มลงไปประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ (อันนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่ชอบเผ็ดมาก เผ็ดน้อยตามด้วยกะปิเคอยอีกประมาณ 1 ช้อน  คนให้พริกแกงและกะปิละลายจนเข้ากัน


 

            ทิ้งไว้ให้เดือดตามด้วยใส่มะม่วงที่หั่นเป็นชิ้นไว้แล้ว เพื่อเพิ่มความเปรี้ยว โดยไม่ต้องพึ่งมะนาวเลยแหละค่ะ

ตามด้วยปลาทับทิมที่หั่นเตรียมไว้แล้ว (เนื้อปลาเปลี่ยนได้ตามชอบ อาจจะเป็นเนื้อปลาช่อน ปลานิล ฯลฯ) ขั้นตอนนี้เน้นย้ำนะค่ะว่าขั้นตอนนี้หม้อต้องเดือดจริงๆ เพื่อไม่ให้มีกลิ่นคาวปลา และที่สำคัญใส่เนื้อปลาลงไปแล้วอย่าคนหม้อนะค่ะ ไม่เช่นนั้น เนื้อปลาจะเละ ไม่เป็นชิ้น ไม่น่ากินค่ะ


ปิดฝาหม้อทิ้งไว้สัก 10-15 นาที ลองชิมดูค่ะ หากยังขาดเค็มให้เติมเกลือหรือน้ำปลาลงไปนิดหน่อย ง่ายๆแค่นี้คุณก็จะได้ลิ้มลองฝีมือแกงส้มของตัวเองแล้วล่ะค่ะ

Advertisement