หากนึกอยากจะไปเที่ยวกาญจนบุรี ผู้เขียนจะนึกถึงทางรถไฟสายมรณะและแม่น้ำแคว หลังจากที่นัดกับกลุ่มเพื่อนได้กำหนดวันที่แน่นอนแล้ว ก็ต้องหาสถานที่พักเป็นอันดับแรก ไม่ยากเข้าไปใน Google จะมีให้เลือกเยอะแยะเลย แต่ผู้เขียนเลือกที่จะไปพักที่นี่ ไทรโยควิวราฟท์ สามารถไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.saiyokviewraft.com
การจองห้องพัก ก็ไม่ยุ่งยาก ตามหน้าเว็บเลย หากไปเป็นครอบครัวก็จองล่วงหน้า 1สัปดาห์ก็น่าจะทัน แต่พวกเราไปกันเป็นกลุ่มเพื่อนสิบกว่าคนเลยต้องจองล่วงหน้า 1 เดือนเพื่อความชัวร์และจ่ายมัดจำครึ่งนึงของจำนวนเต็มล่วงหน้าเพียง 1 สัปดาห์ ส่วนที่เหลือค่อยจ่ายตอนออกจากที่พักครั้งเดียวเลย
การเดินทาง พวกเราเลือกใช้บริการรถตู้เหมาคัน เพราะสะดวก หากนำรถส่วนตัวไปกันเองหลายคัน น่าว่าต้องค่อยโทรหาอาจหลงทางและเสียเวลาได้ พวกเราเลือกที่จะแวะเที่ยวที่ "สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก" เป็นที่แรกเนื่องจากเป็นทางผ่าน
จากนั้นเราก็ไปชักภาพสวยๆริมแม่น้ำกันที่ สะพานแควใหญ่ ที่นี่มีรถไฟวิ่งจำลองให้เราได้ชักภาพสวยๆกันด้วย
ออกจากสะพานแควใหญ่ท้องก็เริ่มร้องกันแล้ว พวกเราเลือกแวะทานอาหารในร้านอาหารเล็กๆ ที่บรรยากาศดีดี (อันนี้จำชื่อร้านไม่ได้จริงๆคะ) ที่ไม่แวะทาานที่ร้านอาหารแถวๆสะพานแควใหญ่ เพราะคิดว่าน่าจะราคาค่อนข้างแพง แบบว่ามากันแบบโลโซๆอ่ะ ทานอาหารกันอิ่มก็มุ่งหน้าสู่ถ้ำกระแซ และรางรพไฟสายมรณะคะ ไหว้พระขอพร ชักภาพกับรางรถไฟเก่าๆ
พอถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบบ่าย 4 โมงแล้ว พวกเราเลยต้องมุ่งหน้าเข้าสู่ที่พักกันก่อน พอไปถึงก็แจ้งชื่อผู้จองรับกุญแจห้อง ทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย ลืมบอกไปคะตอนรับกุญแจก็สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเวลาของการล่องแพด้วย จะได้ไม่พลาด (แต่ปกติเจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งอยู่แล้ว) เก็บของเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมไปล่องแพตามที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ ขอบอกว่าสนุกมาก โดยเฉพาะคนที่ว่ายน้ำเป็น กระโจนน้ำกันสนุกเลย
หลังจากสนุกกับการล่องแพแล้ว ก็อาบน้ำไปทานอาหารเย็นที่ทางบ้านพักเตรียมไว้ให้ (เป็นแบบบุฟเฟ่ห์) ต้องบอกว่าอาหารอาจจะไม่ถูกใจคนไทยที่ชอบทานรสจัด เพราะว่าทางบ้านพักทำเผื่อชาวต่างชาติเนื่องจากชาวต่างชาติมาเที่ยวกันค่อนข้างเยอะ แต่อาหารก็มีให้เลือกทานเยอะแยะเหมือนกันนะ
คืนนั้นพวกเราก็นั่งสังสรรค์กันตรงระเบียงหลังห้องซึ่งติดกับแม่น้ำ กันจนดึกดื่นเพราะอยากซึบซับบรรยากาศให้คุ้ม ตอนเช้าก็ต้องพากันตื่นแต่เช้า เพราะเพื่อนมาปลุกให้ไปรับอากาศดีดีจากริมแม่น้ำ ขอบอกว่าไม่ผิดหวังที่ตื่นมาเจอบรรยากาศยามเช้า ลมเย็นๆ หมอกลงบางๆ (จะว่าไปก็ไม่บางเท่าไหร่นะ ต้องค่อยเช็ดหน้าเลนท์กล้องอยู่ตลอด)
อาหารเช้าที่ทางบ้านพักเตรียมไวัให้เป็นแบบบุฟเฟ่ห์เช่นเคย มีให้เลือกทานเยอะมาก อิ่มมาก พวกเราออกจากบ้านพักตอน 9 โมงกว่าๆเนื่องจากว่าต้องการไปแวะเที่ยวตามสถานที่อื่นๆอีกเลยออกแต่เช้าหน่อย ซึ่งที่จริงก็ยังนอนรับอากาศดีดีได้จนเที่ยง พวกเราเลือกที่จะไปเที่ยวที่น้ำตกเอราวัณ ต้องบอกก่อนนะคะว่าจากที่พักไปน้ำตกทางค่อนข้างไกล แต่ตั้งใจแล้วพวกเราก็ต้องไป และก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับน้ำตกที่น้ำใสๆ เย็นๆ แต่พวกเราก็ไปถึงแค่ชั้น 3 เอง เพราะเพื่อนหลายๆคนเดินไม่ไหว (เกิดจากการดื่มเมื่อคืน 555 )
ออกจากน้ำตกเราก็มุ่งหน้าสู่เขื่อนเขื่อนศรีนครินทร์ และแวะทานข้าวก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯกันที่สันเขื่อน (ที่นี่มีบริการส่งโปสการ์ดด้วยนะคะ เผื่อใครชื่นชอบเหมือนผู้เขียน)
ต้องบอกว่ากาญจนบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติที่น่าสนใจเยอะมาก นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราได้มีโอกาสไปเที่ยว หากใครพอมีเวลาว่างก็ลองแวะไปเที่ยว แล้วคุณจะติดใจกับธรรมชาติแน่นอน (อากาศตอนกลางวันอาจจะร้อนหน่อย)
การจองห้องพัก ก็ไม่ยุ่งยาก ตามหน้าเว็บเลย หากไปเป็นครอบครัวก็จองล่วงหน้า 1สัปดาห์ก็น่าจะทัน แต่พวกเราไปกันเป็นกลุ่มเพื่อนสิบกว่าคนเลยต้องจองล่วงหน้า 1 เดือนเพื่อความชัวร์และจ่ายมัดจำครึ่งนึงของจำนวนเต็มล่วงหน้าเพียง 1 สัปดาห์ ส่วนที่เหลือค่อยจ่ายตอนออกจากที่พักครั้งเดียวเลย
การเดินทาง พวกเราเลือกใช้บริการรถตู้เหมาคัน เพราะสะดวก หากนำรถส่วนตัวไปกันเองหลายคัน น่าว่าต้องค่อยโทรหาอาจหลงทางและเสียเวลาได้ พวกเราเลือกที่จะแวะเที่ยวที่ "สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก" เป็นที่แรกเนื่องจากเป็นทางผ่าน
จากนั้นเราก็ไปชักภาพสวยๆริมแม่น้ำกันที่ สะพานแควใหญ่ ที่นี่มีรถไฟวิ่งจำลองให้เราได้ชักภาพสวยๆกันด้วย
พอถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบบ่าย 4 โมงแล้ว พวกเราเลยต้องมุ่งหน้าเข้าสู่ที่พักกันก่อน พอไปถึงก็แจ้งชื่อผู้จองรับกุญแจห้อง ทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย ลืมบอกไปคะตอนรับกุญแจก็สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเวลาของการล่องแพด้วย จะได้ไม่พลาด (แต่ปกติเจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งอยู่แล้ว) เก็บของเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมไปล่องแพตามที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ ขอบอกว่าสนุกมาก โดยเฉพาะคนที่ว่ายน้ำเป็น กระโจนน้ำกันสนุกเลย
หลังจากสนุกกับการล่องแพแล้ว ก็อาบน้ำไปทานอาหารเย็นที่ทางบ้านพักเตรียมไว้ให้ (เป็นแบบบุฟเฟ่ห์) ต้องบอกว่าอาหารอาจจะไม่ถูกใจคนไทยที่ชอบทานรสจัด เพราะว่าทางบ้านพักทำเผื่อชาวต่างชาติเนื่องจากชาวต่างชาติมาเที่ยวกันค่อนข้างเยอะ แต่อาหารก็มีให้เลือกทานเยอะแยะเหมือนกันนะ
คืนนั้นพวกเราก็นั่งสังสรรค์กันตรงระเบียงหลังห้องซึ่งติดกับแม่น้ำ กันจนดึกดื่นเพราะอยากซึบซับบรรยากาศให้คุ้ม ตอนเช้าก็ต้องพากันตื่นแต่เช้า เพราะเพื่อนมาปลุกให้ไปรับอากาศดีดีจากริมแม่น้ำ ขอบอกว่าไม่ผิดหวังที่ตื่นมาเจอบรรยากาศยามเช้า ลมเย็นๆ หมอกลงบางๆ (จะว่าไปก็ไม่บางเท่าไหร่นะ ต้องค่อยเช็ดหน้าเลนท์กล้องอยู่ตลอด)
อาหารเช้าที่ทางบ้านพักเตรียมไวัให้เป็นแบบบุฟเฟ่ห์เช่นเคย มีให้เลือกทานเยอะมาก อิ่มมาก พวกเราออกจากบ้านพักตอน 9 โมงกว่าๆเนื่องจากว่าต้องการไปแวะเที่ยวตามสถานที่อื่นๆอีกเลยออกแต่เช้าหน่อย ซึ่งที่จริงก็ยังนอนรับอากาศดีดีได้จนเที่ยง พวกเราเลือกที่จะไปเที่ยวที่น้ำตกเอราวัณ ต้องบอกก่อนนะคะว่าจากที่พักไปน้ำตกทางค่อนข้างไกล แต่ตั้งใจแล้วพวกเราก็ต้องไป และก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับน้ำตกที่น้ำใสๆ เย็นๆ แต่พวกเราก็ไปถึงแค่ชั้น 3 เอง เพราะเพื่อนหลายๆคนเดินไม่ไหว (เกิดจากการดื่มเมื่อคืน 555 )
ต้องบอกว่ากาญจนบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติที่น่าสนใจเยอะมาก นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราได้มีโอกาสไปเที่ยว หากใครพอมีเวลาว่างก็ลองแวะไปเที่ยว แล้วคุณจะติดใจกับธรรมชาติแน่นอน (อากาศตอนกลางวันอาจจะร้อนหน่อย)