สำหรับใครที่อยากจะลองติดตั้งเพื่อใช้งานสามารถดาวน์โหลดทั้ง Android และ ios ดังนี้
สำหรับ android download ที่นี่
สำหรับ ios download ที่นี่
หลังจาก download มาเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการติดตั้งและลงทะเบียน ซึ่งไม่ยากครับ โดยขั้นแรกก็ทำการกรอหหมายเลขโทรศัพท์ที่เราใช้งาน
และจะได้ OTP แล้วนำ OTP มากรอก เพื่อยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของเลขหมายนั้นที่แท้จริง
และเราต้องไปกดยืนยัน Activate Email ใน e-mail ที่เราทำการลงทะเบียนไว้อีกครั้ง และก็ทำการกำหนดรหัสเป็น pin เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานตอนเปิดแอปขึ้นมา
อยา่งที่บอกบริการที่ทางบุญเติม สามารถเติม หรือชำระค่าบริการได้นั้น ค่อนข้างจะครอบคลุมเยอะอยู่ ทั้ง
เติมเงินมือถือ: ได้ทุกเครือข่าย AIS 1-2-Call, Dtac, TrueMove/ TrueMove H, My by CAT, TOT 3G, เพนกวิน, มายเวิลด์ ,มายเวิลด์
เติมเกม: Steam Wallet, Line Prepaid Card, MOL Points Card, Dot Arena, Top Eleven, Ex Cash, Cookie Card, Jam Card, Zest Card
ซื้อบัตรเงินสด: AIS 1-2-Call, TrueMoney, TOT
ซื้ออินเตอร์เน็ต: 3BB, True Wifi, TOT Wifi
จ่ายบิลน้ำ-ไฟ: การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การประปาส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้านครหลวง, การประปานครหลวง,
บิลมือถือและอื่นๆ: AIS รายเดือน, TrueMove/TrueMove H รายเดือน, AIS Fibre
แต่ก็จะมีจำนวนกำหนดให้เรา คือ 50 100 200 300 500 และ 1000 เติมเป็นเศษไม่ได้ ซึ่งไม่เหมือนกับตู้ True money ที่ 1 บาทก็สามารถจะเติมได้ ซึ่งความจริงในเมื่อตู้เองก็สามารถหยอดเหรียญบาทได้ ความจริงก็น่าจะเติมเป็นเศษบาทได้ 55
หลังเติมเสร็จ ก็จะมีแจ้งเตือนเข้า e-mail mี่เราสมัครไว้ และรายการในแอปมันเอง แต่ไม่มีการแจ้งเป็น sms เหมือนของ True money
ลองเติมเงิน จากที่บอกแล้วว่า ตู้บุญเติมสามารถเติมเงินมือถือของไทยได้ทุกค่าย ซึ่งเป็นจุดเด่น ที่เด่นกว่า wallet อื่นๆ พอๆ กับ Apay แต่ข้อดีของบุญเติมคือ สามารถเติมขั้นต่ำได้เพียง 10 บาทบวกค่าธรรมเนียม โดยขั้นต่ำ 2 บาทเหมือนกับการเติมผ่านตู้ ซึ่งในตรงนี้ก็อาจจะทำให้เป็นข้อเปรียบเทียบกับแอปอื่น ๆ ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเติม
เมื่อเลือกจำนวนที่ต้องการจะเติม ก็ทำการ "ยืนยันชำระเงิน"
จากนั้นเพื่อความปลอดภัย มันก็จะถามรหัสพินเราอีกครั้ง
หลังจากทำรายการสำเร็จ ก็จะมี e-mail แจ้งเตือนไปยัง e-mail ของเรา หรือสามารถดูประวัติ รายการที่เราทำไปแล้วในแอปของมันได้เช่นกัน เหมือนกับแอปอื่นๆ
สรุปว่า หากใครใช้งานผ่านตู้บุญเติมอยู่แล้ว เจ้าแอป Be Wallet น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง แต่สำหรับผู้ใช้งานรายอื่น ที่ใช้ wallet ที่มีอยู่แล้ว อย่างการเติมเงินที่ไม่มีค่าะรรมเนี่ยมนั้น mobile payment อย่าง Be wallet ก็คงต้องหาวิธี หรือการทำตลาดเพื่อดึงลูกค้ามาใช้งานแอป ซึ่งต้องรอดุต่อไปในอนาคต
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น